ตอบ
ขั้นที่ 1 การวิเคราะห์สภาพปัญหาให้ชัดเจน เป็นการสำรวจข้อมูลเชิงปริมาณ หรือเชิงคุณภาพ รวมถึงการศึกษา ทฤษฎี แนวคิด ที่เกี่ยวกับสิ่งที่ศึกษา และสิ่งที่ต้องการพัฒนาขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการทำงาน หรือพัฒนางานให้ดีขึ้น (R1: Research ครั้งที่ 1)
ขั้นที่ 2 พัฒนาต้นแบบ ถ้าเป็นการเรียนการสอนก็จะเป็นการพัฒนารูปแบบ กระบวนการ กิจกรรมการเรียนการสอน สื่อ อุปกรณ์ หรือระบบการบริหารจัดการ (D1: Development ครั้งที่ 1)
ขั้นที่ 2 ทดลองใช้ต้นแบบที่พัฒนาขึ้น โดยทดลองในกลุ่มเล็กๆ เพื่อให้ต้นแบบที่พัฒนาขึ้นมีความสมบูรณ์ เหมาะสมที่จะนำไปใช้ (R2)
ขั้นที่3 ปรับปรุงต้นแบบให้เหมาะสม (D2)
ขั้นที่ 3 นำต้นแบบที่สมบูรณ์ไปใช้กับกลุ่มตัวอย่างที่มีขนาดใหญ่ขึ้น (R3) ซึ่งการพัฒนาต้นแบบมีการทำอย่างต่อเนื่อง จะพัฒนาและไปทดลองใช้กี่ครั้งขึ้นอยู่กับงานวิจัยแต่ละเรื่อง จนกว่าผู้วิจัยจะมั่นใจได้ว่าสามารถนำต้นแบบที่สมบูรณ์นั้นไปใช้กับกลุ่มเป้าหมายและสามารถแก้ปัญหาได้อย่างครบถ้วน
ขั้นที่ 4 ประเมินประสิทธิผลของต้นแบบ และเผยแพร่
ในการสร้างต้นแบบ นักวิจัยและพัฒนาจะต้องตรวจสอบและปรับปรุงต้นแบบอย่างต่อเนื่องในลักษณะของR&D
2. การสร้างและหาประสิทธิภาพของนวัตกรรม ตามหลักเกณฑ์ E1, E2 (E1, E2 หมายถึงอะไร มีการกำหนดค่าตัวเลขอย่างไร (ความหมายของค่าตัวเลข สูตรของตัวเลข))
ตอบ
E1 คือ ประสิทธิภาพของกระบวนการ (กระบวนการในที่นี้ คือ กระบวนการ การจัดการเรียนการสอนระหว่างเรียนทั้งหมด โดยคิดจากคะแนนหลังเรียนของแต่ละหน่วย บท ของแต่ละเรื่อง) เช่น ตัวเลข 80 หมายถึง ผู้เรียนทั้งหมดได้ทำแบบฝึกหัดหรือแบบทดสอบย่อยได้คะแนนเฉลี่ยร้อยละ 80 ซึ่งหาได้จากสูตร ผลรวมของคะแนน หารด้วย จำนวนผู้เรียนทั้งหมด คูณด้วย 100 แล้วหารด้วย ผมรวมของคะแนนเต็มของแบบทดสอบทุกชุด ก็จะได้ E1
E2 คือ ประสิทธิภาพของผลลัพธ์ (ผลลัพธ์ในที่นี้หมายถึง หลังจากผู้เรียน เรียนจบกระบวนการ โดยคิดคะแนนจากหลังเรียน ได้มาจากแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์นั่นเองครับ) เช่น ตัวเลข 80 หมายถึง ผู้เรียนทั้งหมดได้ทำแบบทดสอบหลังเรียนได้คะแนนเฉลี่ยร้อยละ 80 หาได้จากสูตร ผลรวมของคะแนน หารด้วย จำนวนผู้เรียนทั้งหมด คูณด้วย 100 แล้วหารด้วย ผมรวมของคะแนนเต็มของแบบทดสอบหลังเรียน ก็จะได้ E2
สูตรการหาค่าประสิทธิภาพ
เมื่อ
N แทน จำนวนนักเรียน
A แทน คะแนนเต็มของแบบฝึกหัดทั้งบทเรียน
B แทน คะแนนเต็มของแบบทดสอบหลังเรียน
เกณฑ์ตัดสินประสิทธิภาพของนวัตกรรม
ด้านความรู้ ต้องมีค่า E1 / E2 = 80 / 80
ด้านทักษะ ต้องมีค่า E1 / E2 = 70 / 70
ค่า E1 กับ E2 แตกต่างกันไม่เกินร้อยละ 5
B แทน คะแนนเต็มของแบบทดสอบหลังเรียน
เกณฑ์ตัดสินประสิทธิภาพของนวัตกรรม
ด้านความรู้ ต้องมีค่า E1 / E2 = 80 / 80
ด้านทักษะ ต้องมีค่า E1 / E2 = 70 / 70
ค่า E1 กับ E2 แตกต่างกันไม่เกินร้อยละ 5
ตัวอย่าง
เกณฑ์
เกณฑ์ตัดสินประสิทธิภาพของนวัตกรรม
ด้านความรู้ ต้องมีค่า E1 / E2 = 80 / 80
ด้านทักษะ ต้องมีค่า E1 / E2 = 70 / 70
ค่า E1 กับ E2 แตกต่างกันไม่เกินร้อยละ 5
อ้างอิงแหล่งข้อมูล
เอกสารประกอบการเรียนรายวิชานวัตกรรม https://1drv.ms/f/s!AgQwuQ41_oKKeBayTo-7sicrJak
และแหล่งความรู้เพิ่มเติม http://petcharawadee3.blogspot.com/2008/11/12.html
ด้านความรู้ ต้องมีค่า E1 / E2 = 80 / 80
ด้านทักษะ ต้องมีค่า E1 / E2 = 70 / 70
ค่า E1 กับ E2 แตกต่างกันไม่เกินร้อยละ 5
อ้างอิงแหล่งข้อมูล
เอกสารประกอบการเรียนรายวิชานวัตกรรม https://1drv.ms/f/s!AgQwuQ41_oKKeBayTo-7sicrJak
และแหล่งความรู้เพิ่มเติม http://petcharawadee3.blogspot.com/2008/11/12.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น